รีวิวซีรีส์เรื่อง SEX EDUCATION Season 2

 ในซีซัน 2 นี้ มีการสอดแทรกเนื้อหาหนัก ๆ มาอย่างชาญฉลาด ผ่านความสัมพันธ์และการกระทำของตัวละคร โดยทุก ๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นในเรื่องมีที่มาที่ไปอย่างชัดเจน ทำให้ตัวละครมีความสมจริงมากขึ้น ดูมีเลือดเนื้อ ดูเข้าถึงได้ง่าย และในซีซันนี้ที่ต้องขอชื่นชม ผู้เขียนบทอย่าง ลอรี นันน์ ที่มีการกระจายบทอย่างดี ซึ่งนอกจากจะทำให้ทุกตัวละครไม่หล่นหายแล้ว ยังมีพื้นที่ให้ตัวละครใหม่ ๆ ได้ออกมาสร้างสีสันให้กับเนื้อเรื่องได้เข้มข้นมากยิ่งขึ้นด้วย



Sex Education ซีซัน 2 เปิดเรื่องด้วยปัญหาความล้าหลังของหลักสูตรวิชาเพศศึกษาที่สอนกันอยู่ในโรงเรียนมัธยมศึกษามัวร์เดล จนนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ ภายในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น กามโรค สุขภาวะทางเพศ เป็นต้น โดยการกระทำต่าง ๆ ของตัวละครภายในเรื่องล้วนสะท้อนให้เห็นว่าการเรียนรู้วิชาเพศศึกษาที่ถูกต้องนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะหลักสูตรที่ควรถูกเขียนด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่ความเขินอายในเรื่องเพศ



โอทิส มิลเบิร์น (เอซา บัตเตอร์ฟีลด์) ถึงคราวต้องกลับมาเปิด ‘คลินิก’ อีกครั้ง เมื่อโรคหนองในเทียมเกิดระบาดในโรงเรียน โดยนักเรียนทุกคน ไม่เว้นแม้แต่อาจารย์ ก็ยังต้องการคำแนะนำจากเขา ในขณะที่ธุรกิจเหมือนจะไปได้สวย จีน มิลเบิร์น (จิลเลียน แอนเดอร์สัน) แม่ของโอทิสและนักบำบัดเรื่องเซ็กซ์ ก็ได้ก้าวเข้ามาสู่โรงเรียนเพื่อช่วยปรับปรุงหลักสูตรวิชาเพศศึกษาให้ทันสมัยมากขึ้น (ใครจะไปคิดว่าแม่ของคุณจะมาสอนเรื่องเซ็กซ์ในโรงเรียน!)



แค่ปัญหานี้อย่างเดียว เราก็จะได้เห็นการแสดงอันเข้มข้นของ เอซา บัตเตอร์ฟีลด์ ที่ต้องฟาดฟันกับ จิลเลียน แอนเดอร์สัน ในการแสดงออกถึงความว้าวุ่นของการเป็นวัยรุ่นที่ต้องการการยอมรับ และผู้ปกครองที่ต้องการให้ความช่วยเหลือลูก ๆ อย่างใกล้ชิด ไหนจะต้องผสมโรงกับการที่แม่มีแฟนใหม่ที่เป็นพ่อของแฟนเขาเองอีก! (โอ๊ย มันจะวุ่นวายไปไหน) ในซีซันนี้ เราจึงได้เห็นบทบาทของโอทิสที่ใจร้อนมากขึ้น แสดงออกทางอารมณ์มากขึ้น จนท้ายที่สุดแล้ว เราทุกคนก็จะได้ค้นพบว่า ตัวของโอทิสเองก็มีปัญหาอะไรบางอย่างเหมือนกัน


เมฟ ไวลีย์ (เอ็มมา แมคคีย์) สาวเท่ผมสีชมพูที่กลับมาขโมยหัวใจของเราอีกครั้ง (ที่คราวนี้มาในลุคผมสีธรรมชาติ) โดยเธอยอมร่วมตกลงทำ ‘คลินิก’ กับโอทิสอีกครั้ง แม้จะทำไปโดยไม่เต็มใจนัก (แต่ก็เพื่อเงินเท่านั้นนะ!) ซึ่งตรงจุดนี้สามารถสัมผัสได้ว่าเมฟของเรายังคง #MoveOn เป็นวงกลมอยู่นั่นเอง ส่วนจะวนเป็นวงกลมนานแค่ไหนนั้น ต้องติดตามในซีรีส์ค่ะ เพราะคราวนี้โอทิสนั้นมีแฟนสาวอยู่แล้วคือ โอลา นิมแมน (แพทริเซีย แอลลิสัน) นั่นเอง แถมดูสวีตกันหวานเจี๊ยบเลยด้วยค่ะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รีวิว You Are My Spring (คุณคือฤดูใบไม้ผลิของฉัน)

รีวิว The Uncanny Counter (เคาน์เตอร์ คนล่าปีศาจ)

รีวิวซีรีย์ The King Eternal Monarch จอมราชันบัลลังก์ อมตะ โลกคู่ขนานผสมท่องเวลา