รีวิวซีรีย์ เรื่อง เด็กใหม่ ซีซัน 2

 


ซีรีส์ ‘เด็กใหม่’ (Girl From Nowhere) คือการซีรีส์แนวแฟนตาซี-ลึกลับ-ทริลเลอร์คอนเซ็ปต์จัด เนื้อหาจี๊ดความยาว 13 อีพีที่ว่าด้วยเรื่องของ ‘แนนโน๊ะ’ ลูกสาวซาตานในร่างหญิงสาววัยมัธยมปลาย ผู้เปรียบเสมือน ‘ทูต’ พาคนดูเข้าไปในโรงเรียนด้วยสถานะ ‘เด็กใหม่’ เฝ้าดูพฤติกรรมของผู้คนทั้งที่ดีงามและชั่วร้าย ทั้งกระทำและโดนกระทำ ได้เปรียบและเสียเปรียบของเหล่าผู้คนในรั้วโรงเรียนและเปลี่ยนตัวเองเป็น “ยมทูต” ที่นำพาคนดูไปเฝ้าสังเกตการชำแหละด้านมุมของประเด็นสังคมเหล่านั้นด้วยการคอยยุยง และกระตุ้นชี้ให้คนตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่างลงไป ก่อนที่จะปล่อยให้ผลของการกระทำนั้น ๆ ค่อย ๆ กัดกิน และแสดงผลของมันต่อคนผู้กระทำนั้นอย่างรุนแรง หนักหน่วง และแฟนตาซี



ใน ‘เด็กใหม่ ซีซัน 2’ (Girl From Nowhere Season 2) นี้ แม้ว่าเหตุการณ์ในทั้ง 8 อีพีของซีซันนี้จะยังเกิดขึ้นในโรงเรียน แต่โครงสร้างของเนื้อหาโดยรวมเริ่มขยายออกไปนอกรั้วโรงเรียน ไปสู่ประเด็นข่าวดราม่าในสังคมที่ดูปุ๊บรู้เลยว่าหมายถึงข่าวไหน ทั้งเรื่องประเด็นความรักในวัยเรียนใน ‘นักล่าแต้ม’ (Pregnant) และ ‘True Love’ อุบัติเหตุและการปัดความรับผิดชอบใน ‘มินนี่ 4 ศพ’ (Minnie and the Four Bodies) ประเด็นเรื่องชนชั้นและการเอารัดเอาเปรียบใน ‘กำเนิดยูริ’ (Yuri) กฏระเบียบและอาการบ้าคลั่งในอำนาจที่ดูไร้สาระใน ‘ห้องสำนึกตน’ (Liberation) และ ‘รับน้อง’ (SOTUS) ตัวตนจริง ตัวตนปลอมในโลกออนไลน์ใน ‘JennyX’ และเรื่องราวสุดสะพรึงของคู่แม่ลูกสุดลึกลับในตอนสุดท้าย ‘อวสานแนนโน๊ะ’ (The Judgement)



ในแง่ของบทในซีซันนี้ ดูเหมือนว่าโจทย์ของทีมงานเขียนบทและกำกับจะค่อนข้างมีแนวทางชัดเจนว่า เพื่อจะเป็นซีรีส์ที่ลงใน Netflix “เท่านั้น” ต่างจากในซีซันแรก ที่มันเคยเป็น “ทีวีซีรีส์” มาก่อน สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นชัดก็คือ ในซีซันนี้ เนื้อหาถือว่า “ดาร์ก” “ตรงไปตรงมา” และ “แฟนตาซี” มากกว่า รวมทั้งยังมีความ “สากล” มากกว่า ทำให้ภาพรวมในซีซันนี้ ขับเคลื่อนเรื่องราวด้วยความแฟนตาซีเซอร์เรียลมากกว่าในซีซันที่แล้ว ที่สำคัญคือ ประเด็นสังคมแต่ละประเด็นในซีซันนี้แต่ละตอนนี่แรงมาก แรงโคตร ๆ ชนิดที่เรียกว่าดูปุ๊บรู้เลยว่าหมายถึงใครหรือข่าวไหน จนแอบหวั่นใจแทนเหมือนกันว่า เนื้อหาบางตอนนี่เสี่ยง “โดนสอย” หรือ “ทัวร์ลง” อยู่เหมือนกันนะครับ



อีกสิ่งที่ชัดเจนก็คือ การที่ในซีซันนี้ เปิดกว้างให้ผู้กำกับในแต่ละตอนมีโอกาสได้ตีความเรื่องราว และสื่อสารออกมาในรูปแบบต่าง ๆ มากขึ้น จนทำให้ในแต่ละตอนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ชัดเจนมาก อย่างเช่นในตอน ‘ห้องสำนึกตน’ (กำกับโดย ‘ปวีณ ภูริจิตปัญญา’ และ ‘สุรวุฒิ ตุงคะรักษ์’) ที่มีการใช้สีขาว-ดำ และเปลี่ยนขนาดภาพเป็น 4:3 ราวกับว่าเป็นภาพยนตร์ขาวดำยุคเก่า เพื่อสื่อถึงการปลดแอกจากกฏประหลาด ๆ ถือเป็นการทดลองที่มีความเป็นรูปธรรมมากขึ้นกว่าในซีซันที่แล้วอย่างชัดเจน



นอกจากเส้นเรื่องหลักที่ว่าด้วยเรื่องของการพิพากษาคนชั่วของแนนโน๊ะในแต่ละตอนแล้ว สิ่งที่ในซีซันนี้มีความแตกต่างจากซีซันที่แล้วอย่างชัดเจนก็คือ “เส้นเรื่องรอง” ที่มีการเพิ่มขึ้นมาในซีซันนี้โดยเฉพาะ ที่บอกได้เพียงแค่ว่า แนนโน๊ะกำลังจะเผชิญกับ “ความท้าทายใหม่” บางอย่าง ทำให้ในซีซันนี้ไม่ได้เล่าแค่ว่า ใครคือคนชั่ว และคนชั่วจะได้รับกรรมอย่างไรแต่เพียงอย่างเดียว


ติดตามดูซีรี่ย์ใหม่


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รีวิว You Are My Spring (คุณคือฤดูใบไม้ผลิของฉัน)

รีวิว The Uncanny Counter (เคาน์เตอร์ คนล่าปีศาจ)

รีวิวซีรีย์ The King Eternal Monarch จอมราชันบัลลังก์ อมตะ โลกคู่ขนานผสมท่องเวลา