รีวิว มัธยมซอมบี้ All of Us Are Dead (2022) การหนีตายที่ต้องฝ่าดงฝูงซอมบี้เพื่อเอาชีวิตรอด
มัธยมซอมบี้ All of Us Are Dead (2022) จุดเริ่มต้นการเกิดซอมบี้ จากความอยากรู้อยากเห็นของนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่ดันแกว่งเท้าหาเสี้ยนด้วยความสงสัย จนทำให้ถูกหนูทดลองที่ติดเชื้อไวรัสซอบบี้กัดนิ้วจนเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นและไม่สามารถควบคุมตนเองได้ แม้ อีบยองชาน (รับบทโดย คิมบยองชอล) ครูสอนวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นเชื้อไวรัสดังกล่าวพยายามควบคุมเหตุการณ์ไม่ให้บานปลาย แต่ท้ายที่สุดเหตุการณ์อันร้ายแรงประหนึ่งวันสิ้นโลกก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
เรื่องราวหลังจากผู้ติดเชื้อและกลายพันธุ์เป็นผีดิบเริ่มกระจายไปทั่วทุกตารางวาของโรงเรียน ยังมีนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่หาทางหนีทีไล่จนเอาชีวิตรอดมาได้อย่างหวุดหวิด นำโดย อีชองซาน (รับบทโดย ยุนชานยอง) ลูกชายร้านไก่ทอดผู้มีความปราดเปรียวและกล้าเสียสละอย่างไม่ลังเล นัมอนโจ (รับบทโดย พัคจีฮู) ลูกสาวหัวหน้าทีมกู้ภัยที่สามารถช่วยเหลือเพื่อนด้วยความรู้ด้านการเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขัน อีซูฮยอก (รับบทโดย พัคโซโลมอน) อดีตนักเลงสายบู๊ผู้แข็งแกร่งด้านพละกำลังและการต่อสู้ และ ชเวนัมรา (รับบทโดย โจอีฮยอน) หัวหน้าห้องผู้เย็นชา เธอมักใช้สติในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจนหาทางหนีทีไล่ได้อยู่เสมอ อีกทั้งยังมีนักเรียนคนอื่น ๆ ที่เข้ามาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
โดยรวมแม้ฉากหลังตลอดทั้งเรื่องของซีรีย์จะให้น้ำหนักอยู่ที่โรงเรียนมัธยมฮโยซันค่อนข้างมาก แต่โลกภายนอกยังมีผู้ติดเชื้อที่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นเมืองผีดิบในชั่วข้ามคืน เส้นเรื่องรองจึงนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทหาร ตำรวจ และนักการเมือง แต่ปัญหาสำคัญคือการใส่ตัวละครเข้ามาจนมากเกินพอดีทำให้บางบทถูกหยิบยกมาอย่างน่าสนใจแล้วกลับทิ้งไว้กลางทางไม่มีการสานต่อ อีกทั้งยังต้องตัดฉากสลับไปมาจนกระทบต่ออรรถรสการรับชมอยู่หลายครั้ง
นอกจากนี้ยังมีบทเรียนทางสังคมที่ซีรีย์พยายามนำเสนอให้เห็นในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นปัญหานักเรียนถูกกลั่นแกล้งและล่วงละเมิดทางเพศจนสะสมเป็นความกดดันและความแค้นจนเดินทางไปสู่การกระทำที่รุนแรง ความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวที่นำมาซึ่งการเสียสละในยามเข้าตาจน เสียดสีวิธีการทำงานของภาครัฐและความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนของคนบางกลุ่ม บางเรื่องกระทบใจจนน้ำตาแตก แต่บางเรื่องกลับแตะเพียงผิวเผินพอให้รู้ว่ามีซึ่งถือเป็นลายเซ็นของซีรีย์สไตล์ซอมบี้ยุคหลังที่จำเป็นต้องได้เห็นกันอยู่แล้ว โดยสรุปถือเป็นอีกครั้งที่เกาหลีสร้างสรรค์งานแนวซอมบี้ด้วยความน่าดูมากทีเดียว สนุกชนิดไม่ต้องตีความมาก ระทึกด้วยการไล่ล่าและวิ่งหนีอย่างเต็มอิ่มและสมบูรณ์แบบ โปรดักชั่นที่น่าชื่นชมโดยเฉพาะลองเทคฉากบู๊และซอมบี้บุกที่สมจริง รวมไปถึงงานสเปเชียลเมคอัพที่เนียนกริ๊บ ทั้งเลือดทั้งแผลสมจริงชวนแหวะเอาใจสายฮาร์ดคอร์เป็นพิเศษ ยังเต็มไปด้วยนักแสดงดาวรุ่งที่เสน่ห์ล้นเหลือ แม้จะแลกมาด้วยความน่าหงุดหงิดรำคาญใจที่มีมากอยู่พอสมควร
👉👉 นอกจากนี้ติดตาม รีวิวซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวน แนวฆาตกรรม ไขปริศนา ได้ที่นี่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น