รีวิว วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย (Vincenzo) ดาร์คคอมเมดี้เข้มข้นพร้อมดราม่าสุดสะเทือนใจ


Vincenzo เรื่องราวของทนายความสาวสุดมั่น กับทนายหนุ่มอิมพอร์ตจากอิตาลีสุดเฟียสลูกบุญธรรมของแก๊งมาเฟีย ต้องมาปะทะคารมกัน อีกทั้งมีเด็กฝึกงานหนุ่มที่ทั้งหล่อ ทั้งฉลาด และไม่ใช่เด็กธรรมดา ที่เข้ามากวนใจ กระตุ้นต่อมอยากรู้และอยากเอาชนะของทนายหนุ่มวินเซนโซ รวมถึงภารกิจตามล่าหาขุมทองคำใจกลางกรุงโซล



เรื่องราวของ วินเชนโซ่ กาซาโน (รับบทโดย ซงจุงกิ) คอลซีลเยเรของครอบครัวมาเฟียใหญ่ในอิตาลี ที่หลังจากบอสใหญ่หรือก็คือพ่อบุญธรรมของเขาเสียชีวิตลง เขาก็ได้ทิ้งทวนความโหดโดยการเผาไร่องุ่นของฝั่งตรงข้ามจนวอดวาย และสะบัดปืนบินกลับเกาหลีแบบสุดคูล เป้าหมายของเขาคือทองคำแท่งมูลค่ามหาศาลที่ถูกฝังซ่อนเอาไว้ใต้ตึกคึมกาพลาซ่า แต่การที่จะขนทองออกมาได้ไม่ใช่แค่ขนออกมาก็จบ แต่มีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่านั้นมาก เพราะเจ้าของทองตัวจริงได้ตายไปแล้ว ซึ่งการที่จะเข้าไปยังห้องใต้ดินที่เก็บทองไม่ใช่เรื่องง่าย ทางออกเดียวที่จะขนทองออกมาได้คือ การถล่มตึกเท่านั้น!!




ทำให้วินเชนโซ่ต้องพยายามหาทางทำให้บรรดาคนที่อาศัยอยู่ในตึกยอมย้ายออกมาจากตึกให้ได้ การจะทำให้คนในตึกออกไปก็ยากอยู่แล้ว แต่ความยากเย็นยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะตึกดันถูกบริษัทบาเบลกรุ๊ปมาชุบมือเปิป บังคับขู่เข็ญให้เจ้าของตึกเก่าขายตึกให้กับตัวเองไปอีก!! ทำให้พระเอกของเราต้องเข้ามาพัวพันกับสำนักงานฟางข้าว ของ ทนายฮงยูชาง (รับบทโดย ยูแจมยอง) เพื่อผนึกกำลังต่อต้านบาเบลกรุ๊ป แต่เมื่อยิ่งขุดเรื่องของบาเบลไปลึกเท่าไหร่ก็ยิ่งเห็นความเน่าเฟะขององค์กรนี้ ซื้อสื่อ ซื้อสำนักงานตำรวจ ซื้อสำนักงานอัยการ ซื้อแม้กระทั่งทนาย ทำให้เมื่อบาเบลต้องการจะกลับขาวให้เป็นดำมันเลยง่ายซะยิ่งกว่าปอกกล้วย แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเหตุการณ์นี้ส่งผลให้วินเชนโซ่และ ฮงชายอง (รับบทโดย จอนยอบิน) ลูกสาวของทนายฮงยูชางต้องจับมือกันเพื่อล้างแค้นในสิ่งที่บาเบลทำกับตัวเองไว้ให้สาสม สงครามที่จะค่อย ๆ ร้อนระอุและทวีความรุนแรงจึงเปิดฉากขึ้น




โดยรวม Vincenzo ซีรีย์ที่ดูจากหน้าตาภายนอกคิดว่าจะโหด แต่พอเริ่มเรื่องสองตอนแรกกลับกลายเป็นแนวตลกโอเวอร์แอ็กติ้งของเหล่าตัวละคร ซึ่งทำเอาผิดคาดไปมาก หลายคนอาจจะผิดหวังที่เรื่องราวเน้นตลกเบาสมองมากกว่าซีเรียสจริงจัง (มีแค่ตอนเปิดเรื่องที่อิตาลีที่ดูโหด) แถมมุกตลกก็ไม่ค่อยตลกอะไรมาก ฝืดๆ ซะเยอะ ไปเน้นความโอเวอร์แอ็กติ้งของตัวละครต่างๆ แบบซีรีย์ญี่ปุ่นที่หลายคนก็ไม่ชอบจุดนี้เหมือนกันถึงมาดูเกาหลี โดยหลักๆ ความตลกก็มาจากพระเอกที่ติดนิสัยเนี๊ยบๆ เก๊กหล่อแบบมาเฟียอิตาลีมาใช้กับที่เกาหลี แล้วก็เจออะไรมากมายที่ขัดใจไม่เหมือนตอนอยู่อิตาลี แถมยังต้องมาแก้ปัญหาให้ผู้เช่าพลาซ่ากำลังถูกรื้อ ซึ่งเป็นที่เเขาเอาทองมาซ่อนไว้ และต้องหาทางขนออกมาโดยไม่ให้ใครรู้ ซึ่งตัวผู้เช่าแต่ละคนก็มีนิสัยบ๊องๆ แตกต่างกันไป เป็นมุกให้พระเอกต้องปวดหัวกับพฤติกรรมเพี้ยนๆ เหล่านี้ โดยที่ตัวเองก็ทำอะไรรุนแรงแบบตอนอยู่ที่อิตาลีไม่ได้



👉👉 นอกจากนี้ติดตาม หนังออนไลน์ ได้ที่นี่

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รีวิว You Are My Spring (คุณคือฤดูใบไม้ผลิของฉัน)

รีวิว The Uncanny Counter (เคาน์เตอร์ คนล่าปีศาจ)

รีวิวซีรีย์ The King Eternal Monarch จอมราชันบัลลังก์ อมตะ โลกคู่ขนานผสมท่องเวลา