รีวิว Severance ความพิลึกพิลั่นหลุดโลกแบบดราม่าจิตวิทยาชวนหัว
Severance (2022) ซีรีย์แนวดราม่าไซไฟของ Apple TV+ ผลงานกำกับของ Ben Stiller จากผู้สร้างหน้าใหม่ Dan Erickson แต่ได้กลายเป็นซีรีย์ระดับท็อปของแอปเปิลไปแล้ว จากเรื่องราวสุดพิลึกพิลั่นเมื่อโลกนี้มีชิปที่แยกโลกส่วนตัวกับชีวิตการทำงานเด็ดขาดออกจากกันได้ อะไรจะเกิดขึ้น?
เรื่องราวมาร์คพนักงานแผนกคัดกรองข้อมูลของบริษัท Lumon Industries ที่นี่ความจำของพนักงานทุกคนจะถูกแยกเป็นชีวิตส่วนตัวกับความจำของการทำงาน ซึ่งมาร์คเองไม่เคยรู้สึกสงสัยในความแปลกประหลาดของงานที่เขาทำกับเพื่อนอีก 2 คน จนกระทั่งการมาของพนักงานใหม่ เฮลลี หญิงสาวที่พยายามต่อต้านการทำงานที่นี่ และตั้งคำถามถึงสิ่งที่บริษัทนี้กำลังทำอยู่ ทำให้มาร์คเริ่มสงสัยและพยายามหาคำตอบนี้ให้ได้เช่นกัน
โดยรวมซีรีย์ที่ใช้พล็อตเรื่องแนวไซไฟด้านลบมาขับเคลื่อนเรื่องราวแบบเดียวกับแบล็คมิเรอร์ของ Netflix แต่ในขณะที่แบล็คมิเรอร์เป็นตอนเดียวจบสั้นๆ แต่เรื่องนี้ถูกวางไว้เป็นซีรีย์ขนาดยาวถึง 9 ตอนในซีซั่นแรก และทำต่อในซีซั่น 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เรื่องนี้คือทุกตัวละครจะมีส่วนในเรื่องราวด้านลบของเทคโนโลยีไซไฟแยกชีวิตส่วนตัวกับการทำงานที่ถูกเรียกว่า “แยกโลก” ซึ่งในเรื่องคือการผ่าตัดติดชิปแยกโลกเข้าไปในสมอง และไม่สามารถย้อนกระบวนการหรือถอดออกได้ ทำให้คนที่ตัดสินใจแยกโลกคือคนที่มี 2 ตัวตนในร่างเดียว ซึ่งซีรีย์นี้จะนำเสนอทั้ง 2 ร่าง และผลกระทบทั้งสองชีวิต รวมถึงประเด็นต่างๆ ในกรณีที่สมมุติว่าโลกนี้มีเทคโนโลยีนี้อยู่จริงๆ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
นอกจากนี้แล้วตัวเรื่องยังใช้ตัวละครที่น้อยมากในการนำเสนอเรื่องราวต่างๆ ได้มากมายหลายด้าน รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัวให้ก่อร่างสร้างขึ้นมาเรื่อยๆ จากจุดที่ไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรกันมาก มาจนถึงความรู้สึกผูกพันที่เกิดต่อกันในระหว่างค้นหาความจริงของเรื่องราว ซึ่งคนดูเองที่ได้เห็นทั้งสองโลกต่างจากตัวละครก็จะรู้สึกเห็นใจไปกับชีวิตด้านลบของตัวละครในเรื่อง นี่คือซีรีย์ที่มินิมอลไปทุกด้าน เล่นน้อย ตัวละครน้อย ฉากน้อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือ ความรู้สึกอิมแพ็คมากๆ ในตอนจบ
👉👉 ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังรักคอมเมดี้ ได้ที่นี่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น