รีวิวมินิซีรีย์ Love, Death & Robots Volume 3 กลไกหัวใจดับสูญ อนิเมชั่นที่ไม่ควรพลาด

Love, Death & Robots Volume 3 กลไกหัวใจดับสูญ  ซีรีย์อนิเมชั่นรางวัลเอมมี่เรื่องนี้ไม่ควรพลาด ยังคงความโดดเด่นเหมือนซีซั่นก่อนหน้า ตรงเนื้อเรื่องแปลกใหม่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว  เต็มเปี่ยมไปด้วยอนิเมชั่นคุณภาพเยี่ยม ครั้งนี้มีด้วยกันทั้งหมด 9 ตอน สั้น ๆ แต่เข้มข้นทุกเรื่อง อัดแน่นไปด้วยความรุนแรง เลือดสาด เป็นซีรีย์ที่หากไม่เคยดูซีซั่นก่อนหน้าก็ดูรู้เรื่อง แถมไม่จำเป็นต้องดูเรียงกันก็ได้

1. Three Robots: Exit Strategies สามจักรกล ผลงานของผู้กำกับ Patrick Osborn บอกเล่าเรื่องราวของหุ่นยนต์สามตัวที่ตะลอนสำรวจโลกหลังวันสิ้นโลกเพื่อศึกษาเป็นแนวทางการใช้ชีวิต เนื้อเรื่องเหมือนเอาเศษเสี้ยวของหนังวันสิ้นโลกหลาย ๆ เรื่องมารวม ๆ กันไว้ ก็น่าสนใจดี มีความตลกจากบทพูดเสียดสี 

2. Bad Travelling เส้นทางมรสุม ผลงานของผู้กำกับ David Fincher เรื่องราวของทอร์ริน กะลาสีเรือที่ถูกเพื่อนลูกเรือรวมตัวกันส่งเขาไปเผชิญหน้ากับธานาพอด อสูรร้ายจากใต้ทะเล เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องไปติดตามต่อ โทนเป็นดาร์ก ๆ เทา ๆ เลือดสาด เนื้อเรื่องมีความขัดแย้งในตัว เล่าเรื่องได้น่าสนใจ

3. The Very Pulse of the Machine ชีพจรของเครื่องจักร ผลงานของผู้กำกับEmily Dean ขณะสำรวจดวงจันทร์เบอร์ตันกับ มาร์ธ่าต้องเผชิญเหตุการณ์ไม่คาดฝัน พวกเขาต้องหาทางเอาชีวิตรอด ภาพเรื่องนี้เหมือนการ์ตูนที่เคยดูตอนเด็ก ๆ ใช้ CG สร้างตัวละคร แต่พื้นหลังเป็นภาพวาด เนื้อเรื่องไซไฟ โลกอนาคต ใครชอบแนวนี้น่าจะชอบ 

4. Night of the Mini Dead ค่ำคืนแห่งความตาย  ผลงานของผู้กำกับRobert Bisi และ Andy Lyon เป็นเรื่องราวของคู่รักที่ไปพลอดรักกันในป่าช้าแล้วปลุกซอมบี้ขึ้นมา ใครเป็นแฟนแนวซอมบี้น่าจะชอบเรื่องนี้ ใส่คาแรกเตอร์และกิมมิคความเป็นซอมบี้เข้าไปเกือบครบ ดูเพลินดี

5. Kill Team Kill ทีมสังหาร  ผลงานของผู้กำกับ Jennifer Yuh Nelson ผู้กำกับชื่อดังจากผลงาน Kung Fu Panda 2 และ 3 แต่เรื่องนี้ฉีกโทนไม่ใช่หนังแฟมิลี่แต่อย่างใดเล่าเรื่องของหน่วยทหารพิเศษปฏิบัติภารกิจ ที่ออกสำรวจภัยคุกคามจนได้เจอกับศัตรูที่ไม่คาดคิด  มีความเลือดสาดมากเรื่องนี้ ภาษาค่อนข้างหยาบโลนไม่โดน ภาพเหมือนการ์ตูนญี่ปุ่นสมัยก่อน

6. Swarm สวอร์ม ผลงานของผู้กำกับ Tim Miller ผู้สร้างคนสำคัญของซีรีย์ Love, Death & Robots บอกเล่าเรื่องราวของสองนักวิทยาศาสตร์ที่พยายามไขความลับสิ่งมีชีวิตต่างดาว  เนื้อเรื่องไซไฟน่าสนใจ ทำดี เป็นอนิเมชั่นที่ดูเหมือนจริง การล่องลอยมีการใช้ Motion Capture เลิฟซีนมีความเรียล มูดแอนด์โทนมืด ๆ ดำ ๆ

7. Mason's Rats หนูของเมสัน ผลงานของผู้กำกับ Jerome Chen และ Carlos Stevens เล่าเรื่องขอลุงเมสันเจ้าของฟาร์มที่อยากกำจัดหนูในโรงนา วิธีการจัดการหนูของลุงแก ล้ำสมัยเป็นโลกอนาคตจริง ๆ เล่าเรื่องได้สนุก ชอบมาก ชอบจนอยากยกให้เป็นเรื่องที่ดีที่สุดในทั้งหมด 9 เรื่อง จบถูกใจ ภาพเนียนระดับหนังดิสนีย์

8. In Vaulted Halls Entombed นรกปิดตาย  ผลงานของผู้กำกับ Jerome Chenบอกเล่าเรื่องราวของหน่วยทหารที่ได้รับมอบหมายให้ช่วยเหลือตัวประกันในถ้ำ แต่กลับเจอเรื่องประหลาดจนต้องหนีเอาตัวรอด เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องไปติดตามต่อ กราฟฟิกเทพเหมือนเล่นวีดีโอเกมส์ แต่เนื้อเรื่องหดหู่

9. Jibaro ฆีบาโร ผลงานของผู้กำกับ Alberto Mielgo ที่ได้รับรางวัลเอมมี่จากเรื่อง The Witness ในซีรีส์ Love, Death & Robots Season 1 บอกเล่าเรื่องราวของอัศวินหูหนวกกับนางไซเรนจอมยั่วในตำนาน ก่อเกิดเป็นความรัก เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องไปติดตาม เนื้อเรื่องมีเรียลใกล้เคียงชีวิตจริง ที่ในความรักของคนสองคนมักจะมีฝ่ายได้เปรียบและฝ่ายเสียเปรียบ เล่าได้สนุกน่าติดตาม ดูแล้วลุ้นว่าจะลงเอยอย่างไร โปรดักชั่นพิถีพิถัน ภาพสวย น้ำไหล ใบไม้ไหว ม้าวิ่ง สุดยอดกราฟฟิก ฉากงดงาม CGI เทพ

โดยสรุป เป็นมินิซีรีส์ 9 ตอน แต่ละตอนเป็นการ์ตูนอนิเมชั่นที่ใช้เทคนิคแตกต่างกัน แต่ละเรื่องยาวประมาณ 7-20 นาที เป็นเรื่องจบในตอน ทุกเรื่องสอดแทรกเรื่องความรัก ความตาย และหุ่นยนต์ เข้าไปในเนื้อหา ที่ค่อนข้างออกแนวล้ำยุค ไซไฟ โลกอนาคต คาดไม่ถึง เดาทางไม่ได้ ทำให้น่าติดตาม ความสนุกแต่ละเรื่องไม่เท่ากัน แต่โดยรวมถือว่าเป็นงานอนิเมชั่นคุณภาพทั้งหมด ภาพสวย กราฟฟิกเยี่ยม

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ รีวิวหนังรักคอมเมดี้